ข่าวน้ำท่วม

จุฬาฯ เปิดอาคารจอดรถ เพื่อช่วยเหลือบุคลากรที่ประสบปัญหาน้ำท่วม

parking-help-thai
           คณะผู้บริหารจุฬาลงกรณ์มีมติช่วยเหลือบุคลากรที่ประสบปัญหาน้ำท่วม โดยอนุญาตให้บุคลากรสามารถนำรถมาจอดที่อาคารจอดรถทั้ง 2 อาคารของมหาวิทยาลัย คือ อาคารจามจุรี 9 และอาคารมหาจักรีสิรินธรทุกชั้น เพียงแค่แสดงบัตรประจำตัวพนักงานมหาวิทยาลัย ซึ่งสามารถจอดรถได้จนกระทั่งสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้เพิ่มพื้นที่จอดรถสำหรับบุคลากรที่ประสบปัญหาน้ำท่วม ในอาคารมหาจักรีสิรินธรจำนวน 150 คัน และ อาคารจามจุรี 9 จำนวน 50 คัน

          *** ประกาศ ณ วันที่ 13 ต.ค. 2554 (13.30 น.) ขณะนี้พื้นที่สำหรับจอดรถที่ทางจุฬาฯ เปิดให้จอดฟรีช่วงอุทกภัยน้ำท่วม ในอาคารจามจุรี 9 และอาคารมหาจักรีสิรินธร ตอนนี้เต็มหมดทุกพื้นที่แล้ว ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้

           ในส่วนของประชาชนทั่วไปที่ประสบปัญหาอุทกภัย สามารถนำรถยนต์เข้าจอดได้ตามจุดต่างๆ ดังนี้
               1. สนามบินดอนเมือง ให้บริการจอดรถฟรี บริเวณอาคารจอดรถผู้โดยสาร ภายในประเทศ และอาคารคลังสินค้าสูง 5 ชั้น รับรถได้ 3,000 คัน ติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่ 0-2535-1533, 1466, 0-2535-1515, 1516, 0-2535-1349, 1630
               2. ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต สามารถนำรถมาจอดได้ที่บนอาคารจอดรถของศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม เป็นต้นไปโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น สอบถามได้ละเอียดได้ที่ 02-958-0011 กด 0
               3. ห้างสรรพสินค้า ซีคอนสแควร์ เปิดพื้นที่ดาดฟ้า ชั้น 6 รองรับรถได้ถึง 750 คัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 7-16 ตุลาคม นี้ โดยสามารถจอดค้างคืนตลอดระยะเวลาดังกล่าวได้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ฝ่ายสื่อสารการตลาด โทร.02-721-8888 ต่อ 313 , 314 หรือ http://www.twitter.com/seaconsquare, www.facebook.com/SeaconSquareFanPage
              4. บริษัทเซ็นทรัลพัฒนา เปิดให้บริการจอดรถฟรี ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ปิ่นเกล้า, บางนา, พระราม 2, พระราม 3, แจ้งวัฒนะ, รัตนาธิเบศร์, รามอินทรา, เชียงใหม่ แอร์พอร์ต,เชียงราย, ขอนแก่น, อุดรธานี, ชลบุรี และเซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช สอบถามเพิ่มเติม โทร 02-667-5555 ต่อ 4108 ,02 667 5555 ต่อ 4108
               5. ตลาดนัดบานาน่าสแควร์ ข้างโลตัสลพบุรี และตึกจอดรถของห้างโลตัสอีก 8 ชั้น รวมจอดรถได้กว่า 1,500 คัน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณอู้ 089- 884-4839
               6. ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค ถนนศรีนครินทร์ (เหมาะสำหรับคนที่อยู่แถว สมุทรปราการ ประเวศ พัฒนาการ อ่อนนุช หรือแถวๆ นั้น) รองรับรถยนต์ได้ถึง 650 คัน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-787-2191
               7. อาคาร HobbyLobby (แยกแคราย จ.นนทบุรี) ตรงข้ามเอสพลานาด รองรับรถยนต์ได้ 400 คัน สอบถามเพิ่มเติม โทร 081-906-9460
               8. อิมพีเรียลลาดพร้าว เปิดบริการจอดรถฟรีฉุกเฉินในบริเวณเขตพื้นที่ ลาดพร้าว วังทองหลาง ตลอด 24 ชั่วโมง ติดต่อ โทร.02-9349150
               9. เดอะมอลล์ สาขารามคำแหง ฝั่งเดอะมอลล์ 2 เปิดให้จอดรถที่ชั้น 3, ส่วนเดอะมอลล์ 3 เปิดให้จอดรถที่ ชั้น 3b ขึ้นไป ติดต่อ 02-310-1000 ต่อฝ่ายธุรการ
            10. แฟชั่นไอส์แลนด์ เปิดให้จอดรถ เริ่มวันที่ 8 ตุลาคม ติดต่อ 0-2947-5000
            11. สนามบินสุวรรณภูมิ ให้จอดฟรี ถึงวันที่ 15 ต.ค. (อาจขยายเวลาออกไปอีก) สอบถามเพิ่มเติม โทร 02-132-6535 หรือ ประชาสัมพันธ์ของสนามบิน 02-132-1888
            12. กองทัพอากาศ เปิดศูนย์รับผู้อพยพ และให้บริการจอดรถ ดังนี้
                    1) บน.2 ลพบุรี  รับผู้อพยพได้ 300-500 คน
                    2) บน.4 ตาคลี จ.นคสวรรค์  รับผู้อพยพได้ 500-700 คน
                    3) กรุงเทพมหานคร: สถานที่จอดรถ รร.นอ.  จำนวน 1,000 คัน, หอประชุม 600 คัน, สวนสุขภาพ 100 คัน, พิพิธภัณฑ์ ทอ.  100 คัน, สนามกีฬาธูปะเตมีย์  300 คัน
           โดยต้องเตรียมหลักฐานใช้ประกอบ จำนวน 2 ชุด (ติดด้านหน้ากระจกรถยนต์ จำนวน 1 ชุด) ได้แก่ สำเนาทะเบียนรถ, สำเนาบัตรประชาชาชน, หมายเลขโทรศัพท์ ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมที่ ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ณ ที่ตั้งท่าอากาศยานดอนเมือง โทร 1111 ต่อ 5 (โทรได้ตลอดเวลา), ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ 025342096 ในเวลาราชการ, 02-5341700 ต่อ 15 นอกเวลาราชการ
           13. สถานีแอร์พอร์ตลิงก์ มักกะสัน ให้จอดรถฟรี 200 คัน บริเวณลานจอดรถชั้น 1 สถานีมักกะสัน สามารถนำรถมาจอดฟรีตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยต้องนำสำเนาทะเบียนรถ และสำเนาบัตรประชาชน มาติดต่อเจ้าหน้าที่ บริเวณ ชั้น 3 ของสถานีมักกะสันชั้น 3 หรือโทรศัพท์หมายเลข 02-308-5600 ต่อ 2906 หรือ 2907 ตั้งแต่เวลา 07.00-23.00 น.
           14. ห้างสรรพสินค้าตั้ง ฮั่ว เส็ง ย่านบางพลัด ยินดีให้ที่จอดรถฟรี ติดต่อสอบถาม 0-2434-0448 ต่อ 1222, 1234, 8999 ติดต่อ พร้อมเตรียมเอกสาร ดังต่อไปนี้ 1) สำเนาบัตรประชาชนของผู้ฝาก 2) สำเนาคู่มือ การจดทะเบียนรถ หน้าที่แสดงชื่อเจ้าของรถ และหน้าที่แสดงการชำระภาษีประจำปี
           15. เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ สามารถนำรถมาจอด ฟรี!! ที่ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ สาขา รัชโยธิน, รังสิต, สุขุมวิท, ปิ่นเกล้า และ เอสพลานาด งามวงศ์วาน-แคราย โดยเตรียมเอกสารดังนี้ 1) สำเนาบัตรประชาชน 2) สำเนาทะเบียนรถ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ สาขา รัชโยธิน 02 5115427 ต่อ 190-191, สาขา รังสิต 02 5677047 ต่อ 106-107, สาขา สุขุมวิท 02 7412897, สาขา ปิ่นเกล้า  02 4349075, สาขา งามวงศ์วาน-แคราย 02 5807491 และ www.facebook.com/majorgroup
           16. รร.นายเรืออากาศ ดอนเมือง และพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ เปิดให้ผู้ประสบภัยจอดรถได้ สอบถามเพิ่มเติม โทร. 02-5343624-7
           17. ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ประกาศเปิดพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย และเป็นพื้นที่จอดรถหนีน้ำท่วม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ สายงานอำนวยการ โทร.08-1780-2829 สายงานพัฒนาธุรกิจการค้า โทร.08-9900-9536 สายงานพัฒนาฝีมือช่าง-ผลิตภัณฑ์ โทร.08-1780-2708 สายงานวิชาการ-เทคโนโลยีสารสนเทศ โทร. 08-9900-9535
           18. ห้างบิ๊กซี เปิดให้บริการจุดจอดรถฟรีในพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วม โดยสามารถติดต่อสอบถามไปได้ที่บิ๊กซี สาขาใกล้บ้านท่าน หรือโทรถามข้อมูลที่ 02-655-0666

ขอบคุณข้อมูลจาก : www.kapook.com (http://hilight.kapook.com/view/63484

จุฬาฯ เปิดศูนย์ประสานงานช่วยผู้ประสบอุทกภัยที่ศาลาพระเกี้ยว

help-flood-oct11-thai
           เนื่องด้วยสถานการณ์อุทกภัยที่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงจัดตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้่ประสบอุทกภัยขึ้น ที่ศาลาพระเกี้ยว เพื่อรวบรวมสิ่งของบริจาค และประสานงานส่งความช่วยเหลือเข้าไปในพื้นที่ืั้ประสบความเดือนร้อน และต้องการความช่วยเหลือ
           ทั้งนี้ การบริจาคสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย สามารถทำได้ที่ ศาลาพระเกี้ยว รวมทั้งมีการเปิดสายด่วน เพื่อประสานงานรับบริจาค และให้ข้อมูลช่วยเหลือผู้ประสบภัย ที่เบอร์โทรศัพท์ 085-335-9422

คู่มือรับสถานการณ์น้ำท่วม... เตรียมตัวให้พร้อมก่อนและหลังเกิด

flood-oct11-thai
           เหตุการณ์ อุทกภัยที่เกิดขึ้นในรอบหลายปีที่ผ่านมาได้ได้สร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและหน่วยงานในพื้นที่น้ำท่วม โดยทางรัฐและหน่วยงานที่มีหน้าที่ความรับผิดชอบต้องกรทำการป้องกันและฟื้นฟู ระบบสาธารณูปโภคที่สำคัญก่อน อาจไม่สามารถให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนได้อย่างทันที ดังนั้นประชาชนจึงควรมีความพร้อมในการเตรียมรับสถานการ์น้ำท่วมเพื่อป้องกัน และบรรเทาภัยที่จะเกิดขึ้นได้

การเตรียมการก่อนน้ำท่วม
           การป้องกันตัวเองและความเสียหายจากน้ำท่วม ควรมีการเตรียมการไว้ล่วงหน้า เพราะหากรอให้มีการเตือนภัยเวลามักไม่เพียงพอ รู้จักกับภัยน้ำท่วมของคุณ สอบถามหน่วยงานที่มีการจัดการด้านน้ำท่วม ด้วยคำถามดังต่อไปนี้
           - ภายในละแวกใกล้เคียงในรอบหลายปี เคยเกิดน้ำท่วมสูงที่สุดเท่าไร
           - เราสามารถคาดคะเนความเร็วน้ำหรือโคลนได้หรือไม่
           - เราจะได้การเตือนภัยล่วงหน้าก่อนที่น้ำจะมาถึงเป็นเวลาเท่าไหร่
           - เราจะได้รับการเตือนภัยอย่างไร
           - ถนนเส้นใดบ้าง ในละแวกนี้ที่จะถูกน้ำท่วมหรือจะมีสิ่งกีดขวาง

การรับมือสำหรับน้ำท่วมครั้งต่อไป
           1. คาดคะเนความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับทรัพย์สินของคุณเมื่อเกิดน้ำท่วม
           2. ทำความคุ้นเคยกับระบบการเตือนภัยของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและขี้นตอนการอพยพ
           3. เรียนรู้เส้นทางการเดินทางที่ปลอดภัยที่สุด จากบ้านไปยังที่สูงหรือพื้นที่ปลอดภัย
           4. เตรียมเครื่องมือรับวิทยุแบบพกพา อุปกรณ์ทำอาหารฉุกเฉินแหล่งอาหารและไฟฉาย รวมทั้งแบตเตอร์รี่สำรอง
           5. ผู้คนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงต่อภัยน้ำท่วม ควรจะเตรียมวัสดุ เช่น กระสอบทราย แผ่นพลาสติก ไม้แผ่น ตะปู กาวซิลิโคน เพื่อใช้ป้องกันบ้านเรือน และควรทราบแหล่งวัตถุที่จะนำมาใช้
           6. นำรถยนต์และพาหนะไปเก็บไว้ในพื้นที่ซึ่งน้ำไม่ท่วมถึง
           7. ปรึกษาและทำข้อตกลงกับบริษัทประกันภัย เกี่ยวกับการประกันความเสียหาย
           8. บันทึกหมายเลขโทรศัพท์สำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉินและเก็บไว้ตามที่จำง่าย
           9. รวบรวมของใช้จำเป็นและเสบียงอาหารที่ต้องการใช้ ถายหลังน้ำท่วมไว้ในที่ปลอดภัยและสูงกว่าระดับที่คาดว่าน้ำจะท่วมถึง
        10. ทำบันทึกรายการทรัพย์สินมีค่างทั้งหมด ถ่ายรูปหรือวีดีโอเก็บไว้เป็นหลักฐาน
        11. เก็บ บันทึกรายการทรัพย์สิน เอกสารสำคัญและของมีค่าอื่นๆ ในสถานที่ปลอดภัยห่างจากบ้านหรือห่างไกลจากที่น้ำท่วมถึง เช่น ตู้เซฟที่ธนาคาร หรือไปรษณีย์
        12. ทำแผนการรับมือน้ำท่วม และถ่ายเอกสารเก็บไว้เป็นหลักฐานที่สังเกตุได้ง่าย และติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วมที่เหมาะสมกับบ้านของคุณ

ถ้าคุณคือพ่อแม่
           - ทำการซักซ้อมและให้ข้อมูลแก่บุตรหลานของคุณ ขณะเกิดน้ำท่วม เช่น ไม่สัมผัสเครื่องใช้ไฟฟ้า ปลั๊กไฟ หลีกเลี่ยงการเล่นน้ำและอยู่ใกล้เส้นทางน้ำ
           - ต้องการทราบหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินของหน่วยงานท้องถิ่น
           - ต้องการทราบแผนฉุกเฉินสำหรับ โรงเรียนที่บุตรหลานเรียนอยู่
           - เตรีมแผนการอพยพสำหรับครอบครัวของคุณ
           - จัดเตรียมกระสอบทราย เพื่อกันน้ำไม่ให้เข้าสู่บ้านเรือน
           - ต้องมั่นใจว่าเด็กๆ ได้รับทราบแผนการรับสถานการณ์น้ำท่วมของครอบครัวและของโรงเรียน

การทำแผนรับมือน้ำท่วม
           การจัดทำแผนรับมือน้ำท่วม จะช่วยให้คุณนึกถึงสิ่งต่างๆ ที่จะต้องทำหลังได้รับการเตือนภัยเดินสำรวจทั่วทั้งบ้านด้วยคำแนะนำที่กล่าว มา พร้อมทั้งจดบันทึกด้วยว่าจะจัดการคำแนะนำอย่างไร ในช่วงเวลาที่ทุกๆ คนเร่งรีบและตื่นเต้นเนื่องจากภัยคุกคาม สิ่งที่สำคัญที่จะลืมไม่ได้ก็คือ หมายเลขโทรศัพท์ต่างๆ ที่สำคัญไว้ในแผนด้วย

ถ้าคุณมีเวลาเล็กน้อยหลังการเตือนภัย : สิ่งที่ต้องทำและมีในแผน
           - สัญญาเตือนภัยฉุกเฉิน และสถานีวิทยุ หรือสถานีโทรทัศน์ที่รายงานสถานการณ์
           - รายชื่อสถานที่ 2 แห่งที่สมาชิกในครอบครัวสามารถพบกันได้หลังจากพลัดหลงโดยสถานที่แรกให้อยู่ ใกล้บริเวณบ้านและอีกสถานที่อยู่นอกพื้นที่ที่น้ำท่วมถึง

ระดับการเตือนภัยน้ำท่วม : ลักษณะการเตือนภัยมี 4 ประเภท คือ
           1. การเฝ้าระวังน้ำท่วม : มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดน้ำท่วมและอยู่ในระหว่างสังเกตุการณ์
           2. การเตือนภัยน้ำท่วม : เตือนภัยจะเกิดน้ำท่วม
           3. การเตือนภัยน้ำท่วมรุนแรง : เกิดน้ำท่วมอย่างรุนแรง
           4. ภาวะปกติ : เหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติหรือเป็นพื้นที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วม

สิ่งที่คุณควรทำ : หลังจากได้รับการเตือนภัยจากหน่วยงานด้านเตือนภัยน้ำท่วม
           1. ติดตามการประกาศเตือนภัยจากสถานีวิทยุท้องถิ่น โทรทัศน์หรือรถแจ้งข่าว
           2. ถ้ามีการเตือนภัยน้ำท่วมฉับพลันและคุณอยู่ในพื้นที่หุบเขาให้ปฎิบัติดังนี้
               - ปีนขึ้นที่สูงให้เร็วสุดเท่าที่จะทำได้
               - อย่าพยายานำสัมภาระติดตัวไปมากเกินไป ให้คิดว่าชีวิตสำคัญที่สุด
               - อย่าพยายามวิ่งหรือขับรถผ่านบริเสณน้ำหลาก
           3. ดำเนินการตามแผนรับมือน้ำท่วมที่ได้วางแผนไว้แล้ว
           4. ถ้ามีการเตือนภัยการเฝ้าระวังน้ำท่วมจะยังมีเวลาในการเตรียมแผนรับมือน้ำท่วม
           5. ถ้ามีการเตือนภัยน้ำท่วมและคุณอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมถึง ควรปฎิบัติดังนี้
               - ปิดอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและแก๊ซถ้าจำป็น
               - อุดปิดช่องน้ำทิ้งอ่างล่างจาน
               - พื้นที่ห้องน้ำและสุขภัณฑ์ที่น้ำสามารถไหลเข้าบ้าน
               - อ่านวิธีการที่ทำให้ปลอดภัยจากเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่ออยู่นอกบ้าน
               - ล็อคประตูบ้านและอพยพขึ้นที่สูง
               - ถ้าไม่มีที่ปลอดภัยบนที่สูง ให้ฟังข้อมูลจากวิทยุหรือโทรทัศน์เกี่ยวกับสถานที่หลบภัยของหน่วยงาน
           6. หากบ้านพักอาศัยของคุณไม่ได้อยู่ในที่น้ำท่วมถึงแต่อาจมีน้ำท่วมในห้องใต้ดิน
               - ปิดอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในห้องใต้ดิน
               - ปิดแก็ซหากคาดว่าน้ำจะท่วมเตาแก็ซ
               - เคลื่อนย้ายสิ่งของมีค่าขึ้นข้างบน
               - ห้ามอยู่ในห้องใต้ดิน เมื่อมีน้ำท่วมถีงบ้าน

น้ำท่วมฉับพลัน คือ น้ำท่วมที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมากในบริเวณที่ลุ่มต่ำ ในแม่น้ำ ลำธารหรือร่องน้ำที่เกิดจากฝนที่ตกหนักมากติดต่อกันหรือจากพายุฝนที่เกิดซ้ำที่หลายครั้ง น้ำป่าอาจเกิดจากที่สิ่งปลูกสร้างโดยมนุษย์ เช่น เขื่อนหรือฝายพังทลาย
               - ถ้าได้ยินการเตือนภัยน้ำท่วมฉับพลันให้วิ่งไปบนที่สูงทันที
               - ออกจารถและที่อยู่ คิดอย่างเดียวว่าต้องหนี
               - อย่าพยายามขับรถหรือวิ่งย้อนกลับไปทางที่ถูกน้ำท่วม

ปลอดภัยไว้ก่อนเมื่ออยู่นอกบ้าน
               - ห้ามเดินตามเส้นทางที่น้ำไหล มีผู้คนจำนวนมากเสียชีวิตจากจมน้ำตายในขณะที่น้ำกำลังมาความสูงของน้ำแค่ 15 ซม. ก็ทำให้เสียหลักล้มได้ ดังนั้นถ้ามีความจำเป็นต้องเดินผ่านที่น้ำไหลให้ลองนำไม้จุ่มเพื่อวัดระดับ น้ำก่อนทุกครั้ง
               - ห้ามขับรถในพื้นที่ที่กำลังโดนน้ำท่วม การขับรถในพื้นที่ที่น้ำท่วมมีความเสียงสูงมากที่จะจมน้ำ หากเห็นป้ายเตือนตามเส้นทางต่างๆ ห้ามขับรถเข้าไปเพราะอาจมีอันตรายข้างหน้า น้ำสูง 50 ซม. พัดรถยนต์จักรยสานยนต์ให้ลอยได้
               - ห้ามเข้าใกล้อุปกรณ์ไฟฟ้าและสาย : กระแสไฟฟ้าสามารถวิ่งผ่านได้ เมื่อเกิดน้ำท่วมแต่ละครั้งจะมีผู้เสียชีวิต เนื่องจากไฟดูดมากกว่าสาเหตุอื่นๆ เมื่อเห็นสายไฟหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าชำรุดเสียหายกรุณาแจ้ง 191 หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

หลังน้ำท่วม
           3 ขั้นตอนที่คุณควรทำในวันแรก ๆ หลังจากเหตุการณ์น้ำท่วม
ขั้นตอนที่ 1 : เอาใจใส่ตัวเอง
           หลังผ่านเหตุการณ์น้ำท่วม คุณและครอบครัวอาจเกิดความซึมเศร้า และต้องใช้เวลากลับสู่ภาวะปกติอย่าลืมว่าเหตุการณ์น้ำท่วมนั้นอาคารบ้าน เรือน ได้รับความเสียหาย คุณต้องดูแลตัวเองและครอบครัว พร้อมกับการบูรณะบ้านให้กลับบ้านเหมือนเดิม อุปสรรคที่สำคัญคือ ความเครียด รวมทั้งปัญหาอื่น เช่น นอนหลับยาก ฝันร้ายและปัญหาทางกาย โรคภัยไข้เจ็บ ซึ่งคุณและครอบครัวควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้
           1. ให้เวลากับครอบครัวเพราะความอบอุ่นในครอบครัวอาจช่วยเยี่ยวยารักษาได้ดี
           2. พูดคุยปัญหากลับเพื่อนและครอบครัว ร่วมแบ่งปันความกังวลจะช่วยให้ได้ระบายและผ่อนคลายความเครียด
           3. ผักผ่อนและกินอาหารที่เป็นประโยชน์ เพราะมีปัญหาทั้งความเครียดและทางกายเพิ่มขึ้นเมื่อร่างกายอ่อนแอ
           4. จัดรำดับสิ่งที่จำเป็นต้องทำตามลำดับก่อนหลังและค่อย ๆ ทำ
           5. ขอความช่วยเหลือจากจิตแพทย์เมื่อเกิดอาการซึมเศร้าจนที่จะรับมือได้
           6. ดูแลเด็กๆให้ดี และโปรดเข้าใจเด็กมีความตื่นกลัวไม่แพ้กัน และอย่าตำหนิเด็กที่มีพฤติกรรมแลก ๆ หลังจากน้ำท่วม เช่น ฉี่รดที่นอน ดูดนิ้วโป้งหรืเกาะคุณอยู่ตลอดเวลา จำไว้ว่าเด็กพึ่งผ่านเหตุการณ์ที่รุนแรงในชีวิต
           7. ระวังเรื่องสุขอนามัย เมื่ออยู่ในพื้นที่เคยน้ำท่วม
ขั้นตอนที่ 2 การจัดการดูแลบ้านของคุณ
           ที่ผ่านมามีผู้คนจำนวนมากเสียชีวิตเนื่องจากน้ำท่วมส่วนใหญ่เกิดจากถูกไฟดูด หรืออุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากน้ำลดสิ่งแรกที่ต้องทำเมื่อกลับบ้านคือ การตรวจสอบความปลอดภัย ก่อนเข้าบูรณะและอยู่อาศัย โดยมีขั้นตอนดังนี้
           1. ปรับจูนคลื่นวิทยุโทรทัศน์ ฟังรายงานสถานการณ์
           2. ติดต่อบริษัทประกันภัย เพื่อตรวจสอบความเสียหาย และซ่อมแซมทรัพย์สินต่าง ๆ
           3. เดินตรวจตารอบ ๆ บ้าน และเซ็คสายไฟฟ้า สายถังแก็สโดยถ้าหากเกิดแก็สรั่วจะสามารถรู้ได้จากกลิ่นแก็สให้ระวังและรีบ โทรแจ้งร้านที่เป็นตัวแทนจำหน่าย
           4. ตรวจสอบความเสียหายของโครงสร้าง ตัวบ้าน ระเบียง หลังคา ให้แน่ใจว่าโครงสร้างทุกอย่างปลอดภัย
           5. ตัดระบบไฟฟ้าที่จ่ายเข้าบ้าน
           6. ปิดวาล์วแก็สให้สนิทหากได้กลิ่นแก็สรั่วก่อไม่ควรเข้าใกล้บริเวณนั้น
           7. เข้าไปในบ้านอย่างระมัดระวัง แลพอย่าใช้วัสดุที่ทำให้เกิดประกายไฟ
           8. ถ่ายรูปความเสียหาย เพื่อเรียกร้องค่าชดเชยจากประกัน (ถ้ามี)
           9. เก็บกู้สิ่งของที่มีค่า และห่อหุ้มรูปภาพหรือเอกสารสำคัญ
         10. เก็บกวาดทำความสะอาดบ้าน เปิดหน้าต่างและประตู เพื่อระบายอากาศ และตรวจสอบความมั่นคงของโครงสร้างพื้นฐานของสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ
         11. ซ่อมแซมโครงสร้างที่เสียหาย
         12. เก็บกวาดกิ่งไม้หรือสิ่งปฏิกูลในบ้าน
         13. ตรวจ หารอยแตกหรือรั่วของท่อน้ำถ้าพบให้ปิดวาฃ์วตรงมิเตอร์น้ำ และไม่ควรดื่มและประกอบอาหารด้วยน้ำจากก๊อกน้ำ จนกว่าจะรู้ว่าสะอาดและปลอดภัย
         14. ระบายน้ำออกจากห้องใต้ดินอย่างช้า ๆ เนื่องจากแรงดันน้ำภายนอกอาจจะมากจนทำให้เกิดรอยแตกของผนังหรืพื้นห้องใต้ดิน
         15. กำจัดตะกอนที่มาจากน้ำเนื่องจากเซื้อโรคส่วนมากมักจะมาจากตะกอน
ขั้นตอนที่ 3 : ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
           ก่อนที่คุณพยายามทำความสะอาดและซ่อมแซมทุกอย่าง คุณควรประเมินความเสียหายและทำตามแผนที่วางไว้ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
           1. เรียกบริษัทประกันภัย และเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่น เพื่อพิจารณาความเสียหาย
           2. ตรวจสอบความเสียหายของโครงสรางอาคารของบ้านคุณ
           3. ทำแผนการบูรณะซ่อมแซม ซึ่งเป็นรายการสิ่งที่คุณจำเป็นต้องทำ เพื่อประเวลาและค่าใช้จ่าย
           4. เปิดหน้าต่างเพื่อให้ความชื้นระเหยออกไป

โรคที่มากับน้ำท่วม
           โรคน้ำกัดเท้าและผื่นคัน เกิด ขึ้นได้ก็เพราะผิวหนังเท้าของเรา โดยเฉพาะที่ง่ามเท้าเกิดเปียกชื้นและสกปรก เวลาที่เท้าสกปรก สิ่งสกปรกจะเป็นอาหารอย่างหนึ่งที่ทำให้เชื้อราหรือเชื้อโรคเจริญเติบโตได้ ดี เท้าที่แช่น้ำหรือเปียกชื้นอยู่ตลอดเวลา จะทำให้ผิวหนังที่เท้าอ่อนส่วนผิว ๆของหนังจะเปื่อยและหลุดออก เศษผิวหนังที่เปื่อยนี้จะทำให้เชื้อโรคที่ปลิวไปปลิวมาเกาะติดได้ง่าย และผิวที่เปื่อยก็เป็นอาหารของเชื้อราได้ดี เชื้อราจึงไปอาศัยทำให้เกิดแผลเล็กๆขึ้นตามซอกนิ้วเท้าเกิดเป็นโรคน้ำกัด เท้าขึ้น
โรคน้ำกัดเท้า มักพบว่ามีอาการคันและอักเสบตามซอกนิ้วเท้า (หรือนิ้วมือ) และถ้ามีเชื้อแบคทีเรียเข้าแทรกซ้อนด้วย ก็จะทำให้อักเสบเป็นหนอง และเจ็บปวดจนเดินลำบากได้
           ไข้หวัด เป็นการติดเชื้อของจมูก และคอ บางครั้งเรียก upper respiratory tract infection URI เกิดจากเชื้อไวรัสซึ่งรวมเรียกว่า Coryza viruses ประกอบด้วย Rhino-viruses เป็นสำคัญ เชื้อชนิดอื่นๆมี Adenoviruses, Respiratory syncytial virus เมื่อเชื้อเข้าสู่จมูก และคอจะทำให้เยื่อจมูกบวม และแดง มีการหลังของเมือกออกมาแม้ว่าจะเป็นโรคที่หายเองใน 1 สัปดาห์แต่เป็นโรคที่นำผู้ป่วยไปพบแพทย์มากที่สุดโดยเฉลี่ยเด็กจะเป็นไข้ หวัด 6-12 ครั้งต่อปี ผู้ใหญ่จะเป็น 2-4 ครั้ง ผู้หญิงเป็นบ่อยกว่าผู้ชายเนื่องจากใกล้ชิดกับเด็ก คนสูงอายุอาจจะเป็นปีละครั้ง
           โรคเครียดวิตกกังวล ความเครียดเป็นระบบเตือนภัยของร่างกายให้เตรียมพร้อมที่กระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง การมีความเครียดน้อยเกินไปและมากเกินไปไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ ส่วนใหญ่เข้าใจว่าความเครียดเป็นสิ่งไม่ดีมันก่อให้เกิดอาการปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ หัวใจเต้นเร็ว แน่นท้อง มือเท้าเย็น แต่ความเครียดก็มีส่วนดีเช่น ความตื่นเต้นความท้าทายและความสนุก สรุปแล้วความเครียดคือสิ่งที่มาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงชีวิตซึ่งมี่ทั้ง ผลดีและผลเสีย
           โรคตาแดง เป็นโรคตาที่พบได้บ่อย เป็นการอักเสบของเยื่อบุตา(conjuntiva)ที่คลุมหนังตาบนและล่างรวมเยื่อบุตา ที่คลุมตาขาว โรคตาแดงอาจจะเป็นแบบเฉียบพลัน หรือแบบเรื้อรัง สาเหตุอาจจะเกิดจากเชื้อแบคทีเรีบ ไวรัส Chlamydia trachomatis ภูมิแพ้ หรือสัมผัสสารที่เป็นพิษต่อตา สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส มักจะติดต่อทางมือ ผ้าเช็ดหน้าหรือผ้าเช็ดตัวโดยมากใช้เวลาหาย 2 สัปดาห์ ตาแดงจากโรคภูมิแพ้มักจะเป็นตาแดงเรื้อรัง มีการอักเสบของหนังตา ตาแห้ง การใช้contact lens หรือน้ำยาล้างตาก็เป็นสาเหตุของตาแดงเรื้อรัง
           โรคอุจจาระร่วง หมายถึง ภาวะที่มีการถ่ายอุจจาระเหลว จำนวน 3 ครั้งต่อกันหรือมากกว่า หรือถ่ายเป็นน้ำมากกว่า 1 ครั้ง ใน 1 วัน หรือถ่ายเป็นมูกหรือปนเลือดอย่างน้อย 1 ครั้ง สาเหตุเกิดจากการติดเชื้อในลำไส้จากเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส โปรโตซัว ปรสิตและหนอนพยาธิ สถานีอนามัย โรงพยาบาลชุมชนในประเทศไทยมักจะหาสาเหตุของเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดอาการ อุจจาระร่วงไม่ได้ ก็จะให้การวินิจฉัยจากอาการ อาการแสดงและลักษณะอุจจาระได้แก่ บิด (Dysentery) อาหารเป็นพิษ (Food poisoning) ไข้ทัยฟอยด์ (Typhoid fever) เป็นต้น ในกรณีที่มีอาการของโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลันไม่ใช่โรคดังกล่าวข้างต้น และอาการไม่เกิน 14 วัน ก็จะรายงานเป็นโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน (Acute diarrhea)

แหล่งให้ความช่วยเหลือน้ำท่วม
1. ศูนย์ข้อมูล ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม
           - กรมทางหลวง เพื่อให้ประชาชนสอบถามข้อมูลน้ำท่วมได้ตลอด 24 ชั่วโมง กด 1586
           - สำนักนายกรัฐมนตรี ขอความช่วยเหลือน้ำท่วม สามารถสอบถามได้ตลอด 24 ชั่วโมง กด 1111
           - สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ขอความช่วยเหลือน้ำท่วม กด 1102
           - กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) สายด่วนนิรภัย ได้ตลอด 24 ชั่วโมง กด 1784
           - กรมชลประทาน (กรมชลฯ) สายด่วน สอบถามสถานการณ์น้ำ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง กด 1460
           - ตำรวจทางหลวง สอบถามเส้นทางน้ำท่วม ได้ตลอด 24 ชั่วโมง กด 1193
           - บริการแพทย์ฉุกเฉิน และนำส่งโรงพยาบาล ฟรีกด 1669
           - ศูนย์ความปลอดภัย กรมทางหลวงชนบท กด 1146
           - การรถไฟแห่งประเทศไทย กด 1690
           - การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กด 1129
           - ท่าอากาศยานไทยกด 02-535-1111
           - ศูนย์ประสานงานภัยพิบัติ ประกอบด้วย รับแจ้งเหตุ 035 335 5210
           - เหตุฉุกเฉิน 1669

2. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
           - เว็บไซต์ disaster.go.th
           - สายด่วนนิรภัย หมายเลขโทรศัพท์ 1784
           - ขบวนช่วยเหลือน้ำท่วมออกเรื่อย ๆ ขอรับบริจาคเน้นไปที่ น้ำ, ยาแก้ไข้, เสื้อ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 02-241-7450-6

3. กรมอุตุนิยมวิทยา
           - เว็บไซต์ tmd.go.th
           - สายด่วนกรมอุตุนิยมวิทยา โทร. 1182
           - สถานีวิทยุกระจายเสียงกรมอุตุนิยมวิทยา กรุงเทพมหานคร (AM 1287 KHz) โทร. 02-383-9003-4, 02-399-4394
           - สถานีวิทยุกระจายเสียงกรมอุตุนิยมวิทยา จ.นครราชสีมา (FM 94.25 MHz)โทร. 044-255-252
           - สถานีวิทยุกระจายเสียงกรมอุตุนิยมวิทยา จ.พิษณุโลก (FM 104.25 MHz) โทร. 055-284-328-9
           - สถานีวิทยุกระจายเสียงกรมอุตุนิยมวิทยา จ.ระยอง (FM 105.25 MHz) โทร. 038-655-075, 038-655-477
           - สถานีวิทยุกระจายเสียงกรมอุตุนิยมวิทยา จ.ภูเก็ต (FM 107.25 MHz) โทร. 076-216-549
           - สถานีวิทยุกระจายเสียงกรมอุตุนิยมวิทยา จ.ชุมพร (FM 94.25 MHz) โทร. 077-511-421

4. กรุงเทพมหานคร
           - สามารถไปบริจาคสิ่งของได้ที่ ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย อาคารศาลาว่าการกทม.1 (เสาชิงช้า), ศาลาว่าการกทม.2(ดินแดง) และที่สำนักงานเขตทุกแห่งทั่วกรุงเทพฯ 50 แห่ง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 02-354-6858

5. สภากาชาดไทย
            - สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 02-251-7853-6 , 02-251-7614-5 ต่อ 1603
            - สามารถบริจาคเงินไปได้ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสภากาชาดไทย บัญชีออมทรัพย์ ชื่อบัญชี “สภากาชาดไทยช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย” เลขที่บัญชี 045-3-04190-6 แล้วแฟ็กซ์ใบนำฝากพร้อมเขียนชื่อและที่อยู่มาที่ สำนักงานการคลัง สภากาชาดไทย ถึงหัวหน้าฝ่ายการเงิน หมายเลขโทรสาร 02-250-0120 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 02-256-4066-8
            - สามารถไปบริจาคสิ่งของได้ที่ สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย 1871 ถนนอังรีดูนังต์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 หากมาจากถนนพระราม 4 ให้เลี้ยวตรงแยกอังรีดูนังต์ เมื่อเข้าสู่ถนนอังรีดูนังต์ให้ชิดซ้ายทันที เนื่องจากอยู่ต้นๆถนน (ทางด้านพระราม 4) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-251-7853-6 ต่อ 1603 หรือ 1102 หากเป็นวันหยุดราชการ ต่อ 1302 , 02-251-7614-5 หมายเลขโทรสาร 02-252-7976

6. เลขบัญชีช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม
           - จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บริจาคได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสภากาชาดไทย ชื่อบัญชี จุฬาฯรวมใจช่วยพิบัติภัย ประเภทบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ เลขที่ 045-2-98260-4
           - สำนักนายกรัฐมนตรี ชื่อบัญชี กองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยสำนักนายกรัฐมนตรี ธนาคารกรุงไทย สาขารทำเนียบรัฐบาล บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 067-0-06895-0 ลดหย่อนภาษีได้
           - สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาชื่อบัญชี วุฒิสภาช่วยน้ำท่วม  ธนาคารกรุงไทย บัญชีออมทรัพย์ สาขารัฐสภา เลขที่บัญชี 089-0-22222-3
           - สภากาดชาดไทย ชื่อบัญชี สภากาชาดไทย ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสภากาชาดไทย บัญชีกระแสรายวัน หมายเลขบัญชี 045-304190- 6 โดยหลังบริจาคแล้วสามารถแฟกซ์ใบนำฝาก พร้อมชื่อที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ส่งถึงหัวหน้าฝ่ายการเงิน สำนักงานการคลัง สภากาชาดไทย โทรสาร 0 2256 4069
           - มูลนิธิราชประชานุเคราะในพระบรมราชชูปถัมป์ ชื่อบัญชี มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ (ประเภทออมทรัพย์) ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาย่อย สำนักพระราชวัง (สนามเสือป่า) เลขที่บัญชี 401-636319-9และ ธนาคารทหารไทย สาขาย่อย สำนักพระราชวัง(สนามเสือป่า) ชื่อบัญชี มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ เลขที่บัญชี 046-2-44777-2 (กรุณาส่งสำเนาใบนำฝาก พร้อมแจ้งชื่อ ที่อยู่ ที่จะออกใบเสร็จของท่าน มาทางโทรสารหรือจดหมาย ภายใน 15วัน)
           - ศูนย์อาสาสมัคร มูลนิธิ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ชื่อบัญชี ศูนย์อาสาฯ มูลนิธิ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ธนาคารกรุงไทย สาขาย่อยกระทรวงการคลัง เลขที่ 068-0-02-3607
           - กรุงเทพมหานคร บัญชีกองทุนกรุงเทพมหานครช่วยเหลือผู้ประสบภัย ธ.ธนาคารกรุงไทย สาขาถนนข้าวสาร เลขที่ 027-0-17081-2

ข้อมูลเพิ่มเติม
1. วิธีช่วยเหลือจากการจมน้ำ : http://www.youtube.com/watch?v=yb0Y3ufGwVQ&feature=relmfu
2. รองเท้ากันน้ำทำเองได้ : http://www.youtube.com/watch?v=vgOurcp1j-0&feature=relmfu
3. ทำน้ำเกลือแร่จากของในบ้าน : http://www.youtube.com/watch?v=sDSFclewf5I&feature=relmfu
4. เอาชีวิตรอดจากน้ำท่วม (ตอน1) : http://www.youtube.com/watch?v=GJKkYN7q1bY
5. เอาชีวิตรอดจากน้ำท่วม (ตอน2) : http://www.youtube.com/watch?v=Sfsf6bKICoc
6. ข้อควรปฏิบัติของการขับรถช่วงน้ำท่วม : http://www.youtube.com/watch?v=PlTvYBV-3kA
7. บัญญัติ 20 ประการ เตรียมบ้านก่อนน้ำท่วม : (ดาวน์โหลดเอกสาร)
8. ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม : http://www.floodthailand.net/

วิเคราะห์สถานการณ์อุทกภัย 2554 ในประเทศไทย
โดยสถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ดาวน์โหลดเอกสาร)

ที่มา :

1. วิเคราะห์สถานการณ์อุทกภัย 2554 ในประเทศไทย โดยสถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ดาวน์โหลดเอกสาร)
2. คู่มือรับสถานการณ์น้ำท่วม หน่วยวิจัยภัยพิบัติทางธรรมชาติ ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.เชียงใหม่ (ดาวน์โหลดคู่มือ)
3. http://www.cendru.net
4. http://www.youtube.com/user/chaokhaokhonCH
5. http://www.youtube.com/user/helthtech2010