จุฬาฯ เฝ้าระวังแผ่นดินไหว

ข่าวแผ่นดินไหว บนหน้าหนังสือพิมพ์

ข่าวแผ่นดินไหว ปี 2557
• ประจำวันที่ : 06/05/57 ที่มา : เดลินิวส์ หัวข้อข่าว : 14 รอยเลื่อนที่มีพลังในไทย
• ประจำวันที่ : 06/05/57 ที่มา : แนวหน้า หัวข้อข่าว : ดินไหวเขย่าภาคเหนือ6.3ริกเตอร์ปชช.หนีตายจ้าละหวั่น...
• ประจำวันที่ : 06/05/57 ที่มา : เดลินิวส์ หัวข้อข่าว : ธรณีไหวเขย่าถึงกทม. แรง6.3ริคเตอร์ 6จังหวัดอ่วมยับหนีตายโกลาหล
• ประจำวันที่ : 06/05/57 ที่มา : กรุงเพทธุรกิจ หัวข้อข่าว : นักวิชาการชี้พบรอยเลื่อนเสี่ยงแผ่นดินไหวหลายจุด
• ประจำวันที่ : 06/05/57 ที่มา : ไทยรัฐ หัวข้อข่าว : ป่วนทั้งภาคเหนือ!ดินไหว6.3ผู้คนหนีตายอุตลุดมีอาฟเตอร์ช็อกถึง3ครั้ง...
• ประจำวันที่ : 06/05/57 ที่มา : ASTVผู้จัดการ หัวข้อข่าว : แผ่นดินไหว6.3ริกเตอร์ เชียงรายเสียหายหนัก ถนนทรุด-เศียรพระหัก
• ประจำวันที่ : 06/05/57 ที่มา : กรุงเพทธุรกิจ หัวข้อข่าว : 'รร.-ห้าง' ป่วนแผ่นดินไหว เชียงรายระทึก 6.3 ริกเตอร์...
• ประจำวันที่ : 06/05/57 ที่มา : บ้านเมือง หัวข้อข่าว : ระทึก!แผ่นดินไหวใหญ่สุดไทยในรอบหนึ่งร้อยปีแรง6.3ริคเตอร์...
• ประจำวันที่ : 06/05/57 ที่มา : มติชน หัวข้อข่าว : เหนือวุ่นแผ่นดินไหว6.3 วัด-ถนน-ตึกร้าวตื่น-กรี๊ดลั่นห้าง...
• ประจำวันที่ : 06/05/57 ที่มา : ข่าวสด หัวข้อข่าว : ไหวแรงสุดในไทยเหนือยับ'วัดร่องขุ่น'หนักฉัตรดอยสุเทพด้วย...
• ประจำวันที่ : 06/05/57 ที่มา : คมชัดลึก หัวข้อข่าว : อาคารสูง-โรงแรมพังยับ-ถนนทรุด-หนีอลหม่าน ดินไหวเหนือเละ...
• ประจำวันที่ : 06/05/57 ที่มา : The Nation หัวข้อข่าว : Big quake rocks North BUIDINGS, ROADS DAMAGED IN CHIANG RAI...
• ประจำวันที่ : 06/05/57 ที่มา : Bangkok Post หัวข้อข่าว : Strong tremor rocks North, shakes buildings in capital

ข่าวแผ่นดินไหว ปี 2555

ประจำวันที่ : 13/04/55 ที่มา : คมชัดลึก หัวข้อข่าว :8.6 ริกเตอร์ขยาย 13 รอยเลื่อน...ไทย
ประจำวันที่ : 14/04/55 ที่มา : เดลินิวส์ หัวข้อข่าว :'สมิทธ'เตือนปลายปีสึนามิถล่มอันดามัน หวั่นแผ่นดินไหวเขย่ากทม.พังราบ
• ประจำวันที่ : 14/04/55 ที่มา : แนวหน้า หัวข้อข่าว :ไทยเสี่ยงดินไหวใหญ่'สมิทธ'เตือนรีบป้องกัน เอกชนพังงาโอดพิษสึนามิวูบ20%
ประจำวันที่ : 18/04/55 ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ หัวข้อข่าว :ชี้แผ่นดินไหวภูเก็ตบ้านพัง 35 หลัง
• ประจำวันที่ : 18/04/55 ที่มา : ไทยโพสต์ หัวข้อข่าว :เขย่าภูเก็ตซ้ำไหวอีก'3.1'อาฟเตอร์ช็อกร่วม10หน
• ประจำวันที่ : 18/04/55 ที่มา : มติชน หัวข้อข่าว :แผ่นดินไหว2วัน10รอบภูเก็ตเครียด สั่งจับตา2รอยเลื่อน บ้าน2ชั้นก็อันตราย...
• ประจำวันที่ : 18/04/55 ที่มา : มติชน หัวข้อข่าว : แผ่้นดินไหว สะเทือนถึงกรุงเทพฯ
ประจำวันที่ : 19/04/55 ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ หัวข้อข่าว :คอลัมน์ จับกระแส 'แผ่นดินไหว' ภัยใกล้ตัว
• ประจำวันที่ : 19/04/55 ที่มา : คมชัดลึก หัวข้อข่าว :โดมิโน 'แผ่นดินไหว' สู่รอยเลื่อน...'คลองมะรุ่ย'!!
ประจำวันที่ : 20/04/55 ที่มา : เดลินิวส์ หัวข้อข่าว :ตึกสูงในกทม.หวั่นจะซ้ำรอย'เม็กซิโกซิตี'
• ประจำวันที่ : 20/04/55 ที่มา : บ้านเมือง หัวข้อข่าว :คอลัมน์ บ้านเกิดเมืองนอน แผ่นดินไหว
ประจำวันที่ : 20/04/55 ที่มา : โพสต์ทูเดย์ หัวข้อข่าว :3 เงื่อนไข แผ่นดินไหวเมืองกรุงเสี่ยงพินาศ
ประจำวันที่ : 22/04/55 ที่มา : ไทยโพสต์ หัวข้อข่าว :ต่อไปนี้ไทยจะได้เห็น แผ่นดินไหว '5 ริกเตอร์' บ่อยขึ้น
• ประจำวันที่ : 22/04/55 ที่มา : โพสต์ทูเดย์ หัวข้อข่าว :เตือนระนองเสี่ยงแผ่นดินไหวรุนแรง
• ประจำวันที่ : 23/04/55 ที่มา : คม ชัด ลึก หัวข้อข่าว :ภูเก็ตสั่นไหว...ไข่มุกสั่นสะเทือน
• ประจำวันที่ : 23/04/55 ที่มา : บางกอกทูเดย์ หัวข้อข่าว :คอลัมน์ ย้อนหลังมองอดีต แผ่นดินไหวในไทย
• ประจำวันที่ : 23/04/55 ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ หัวข้อข่าว :แผ่นดินไหว 'ภูเก็ต 'ส่งสัญญาณ 'กทม.-ภาคเหนือ-ตะวันตก' เสี่ยงสูงกว่า
• ประจำวันที่ : 25/04/55 ที่มา : ไทยรัฐ หัวข้อข่าว :สกู๊ปหน้า 1 ภัยแผ่นดินไหวใจกลางประเทศไทย
• ประจำวันที่ : 25/04/55 ที่มา : มติชน หัวข้อข่าว :ยันดินไหว'ภูเก็ต'ไม่รุนแรง 'สันทราย'เขย่า1.8ริกเตอร์
• ประจำวันที่ : 30/04/55 ที่มา : ดอกเบี้ยธุรกิจ หัวข้อข่าว :ไม่ง่าย'ภูเก็ต'จมระวัง 2 รอยเลื่อนพบกัน
• ประจำวันที่ : 01/05/55 ที่มา : เดลินิวส์ หัวข้อข่าว :เฝ้าระวัง'รอยเลื่อนระนอง'อาจทำ'ธรณีไหว'ทะลุถึง6ริคเตอร์ให้เตรียมตัวรับมือ
• ประจำวันที่ : 01/05/55 ที่มา : ไทยโพสต์ หัวข้อข่าว :นักวิชาการจับตารอยเลื่อนระนอง
• ประจำวันที่ : 08/05/55 ที่มา : สยามรัฐ หัวข้อข่าว :รายงานพิเศษ ขีดเส้นใต้'2012'ความจริงเรื่อง'แผ่นดินไหว'
• ประจำวันที่ : 10/05/55 ที่มา : ASTVผู้จัดการรายวัน หัวข้อข่าว :กฟผ.ยันแผ่นดินไหวในพม่าไม่กระทบเขื่อนยักษ์ในไทย
• ประจำวันที่ : 10/05/55 ที่มา : มติชน หัวข้อข่าว :แผ่นดินไหวพม่า4.2ริกเตอร์
• ประจำวันที่ : 15/05/55 ที่มา : ข่าวสด หัวข้อข่าว :นาซ่าจ่อทดสอบจีพีเอสจับแผ่นดินไหว พึ่งดาวเทียมชี้เป้าแม่นยำ-ฉับไว
• ประจำวันที่ : 18/05/55 ที่มา : ข่าวสด หัวข้อข่าว :คอลัมน์ คลินิกบ้าน ระวังภัยแผ่นดินไหว
• ประจำวันที่ : 20/05/55 ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ หัวข้อข่าว :ล่องใต้...ตามดูระบบเตือนภัย 'ฝั่งอ่าวไทย'
• ประจำวันที่ : 21/05/55 ที่มา : ข่าวสด หัวข้อข่าว :ดินไหวพม่าไม่กระทบเขื่อนไทย
• ประจำวันที่ : 21/05/55 ที่มา : ไทยรัฐ หัวข้อข่าว :โลกดินไหวหลายจุดในไทยด้วย อิตาลีตึกพัง 6 ศพ ญี่ปุ่น5-6ริกเตอร์ ที่เชียงใหม่ก็เจอ
• ประจำวันที่ : 21/05/55 ที่มา : มติชน หัวข้อข่าว :พม่าระทึก'ธรณีเขย่า'5.1ริกเตอร์
ประจำวันที่ : 22/05/55 ที่มา : Bangkok Post หัวข้อข่าว :Minor earthquake hits Kanchanaburi
• ประจำวันที่ : 22/05/55 ที่มา : เดลินิวส์ หัวข้อข่าว :ศูนย์กลางดินไหว กาญจน์-เชียงใหม่ช็อก แรงกว่า'2ริคเตอร์'ยันเขื่อนยังมั่นคง
• ประจำวันที่ : 22/05/55 ที่มา : เดลินิวส์ หัวข้อข่าว :ออกกฎรับแผ่นดินไหวอาคาร8-15ชั้นสร้างก่อนปี50เสี่ยง...
• ประจำวันที่ : 22/05/55 ที่มา : ไทยรัฐ หัวข้อข่าว :ดินไหวไทรโยคชาวบ้านไม่รู้สึก
• ประจำวันที่ : 22/05/55 ที่มา : แนวหน้า หัวข้อข่าว :ผอ.เขื่อนศรีนครินทร์ยันแผ่นดินไหวไม่กระทบ
ประจำวันที่ : 22/05/55 ที่มา : พิมพ์ไทย หัวข้อข่าว :กาญจน์ดินไหวเขื่อนไร้กระทบชม.เฝ้าพท.เสี่ยง
ประจำวันที่ : 22/05/55 ที่มา : โพสต์ทูเดย์ หัวข้อข่าว :เตือนปชช.อย่าวิตกแผ่นดินไหวเขย่าถี่
• ประจำวันที่ : 22/05/55 ที่มา : มติชนสุดสัปดาห์ หัวข้อข่าว :แผ่นดินไหวขนาด 5 ริกเตอร์ขึ้นไปที่เคยตรวจพบ
• ประจำวันที่ : 22/05/55 ที่มา : โลกวันนี้ หัวข้อข่าว :ไหวเขย่ากาญจน์ แรง2.3ริกเตอร์ ไม่กระทบเขื่อนเขย่ากาญจน์2.3ริกเตอร์
• ประจำวันที่ : 23/05/55 ที่มา : เดลินิวส์ หัวข้อข่าว :เชียงใหม่ผวา แผ่นดินไหว แตกตื่น5ครั้งติด อ.ไทรโยคไหว2.3 ผอ.เขื่อนยันเอาอยู่

สื่อสาระน่ารู้เกี่ยวกับแผ่นดินไหว

สื่อสาระน่ารู้เกี่ยวกับแผ่นดินไหว

รับมือแผ่นดินไหว // สำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร



Preparing for an Earthquake


How To Protect Yourself From The Earthquakes


รู้ทันแผ่นดินไหว // ศ.ดร.ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล หัวหน้าหน่วยศึกษาพิบัติภัยฯ จุฬาฯ

ช่องทางการติดตามเหตุแผ่นดินไหว และเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉิน

           ช่องทางการติดตามเหตุแผ่นดินไหว และเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉิน
               หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และบริการฉุกเฉิน
               1. สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา
                    http://www.seismology.tmd.go.th/
                    https://www.facebook.com/EarthquakeTMD
                    http://twitter.com/#!/seismo_twitt%20 
                    Email : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
                    Earthquake Hotline 24hr.
                          02-366-9410
                          02-398-5325
                          02-399-0969
                          02-399-4547

               2. ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

                    http://www.ndwc.go.th/web/
                    สอบถามเรื่องแผ่นดินไหว โทร 02-3994114, 02-3991128
                    hotline : 192

               3. ศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัย กรมทรัพยากรธรณี

                    http://www.dmr.go.th
                    โทร 02-6219701 – 05

               4. Geo - InformaticS Center for Thailand .: GISThai
                    ศูนย์วิจัยภูมิสารสนเทศเพื่อประเทศไทย
                    ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
                    http://www.gisthai.org/
                    โทรศัพท์ 02 218 5442-3

               5. สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.)

                    เจ็บป่วยฉุกเฉิน โทร. 1669 บริการฟรี ตลอด 24 ชม.

               6. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

                    สายด่วน 1784

           เว็บไซต์รายงานสถานการณ์แผ่นดินไหว
               1. ตรวจสอบแผ่นดินไหว 24 ชม.
                    http://www.seismology.tmd.go.th/inside.php
                    http://www.seismology.tmd.go.th/index.php 
                    https://www.facebook.com/#!/EarthquakeTMD%20

               2. ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
                    http://www.ndwc.go.th/web/

               3. ประกาศเตือนภัย กรมอุตุนิยมวิทยา
                    http://www.tmd.go.th/list_warning.php

               4. the United States Geological Survey’s (USGS)
                    http://earthquake.usgs.gov/

               5. European-Mediterranean Seismological Centre (EMSC)
                    http://www.emsc-csem.org/#2%20

               6. Japan Meteorological Agency (JMA)

                    http://www.jma.go.jp/jma/indexe.html 

               7. Pacific Tsunami Warning Center
                    http://ptwc.weather.gov/ptwc/index.php

               8. รวมข่าวแผ่นดินไหว
                    http://paidoo.net/scoop/%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A7

มาตรการรับมือแผ่นดินไหว

           มาตรการรับมือแผ่นดินไหว


คลิกที่รูปเพื่อขยายใหญ่

p1

คลิกที่รูปเพื่อขยายใหญ่

p2

           ที่มา: สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพ

           สิ่งของจำเป็น
               การเตรียมตัวสำหรับรับมือเหตุแผ่นดินไหว ควรมีการจัดเตรียมสิ่งของจำเป็นเอาไว้ล่วงหน้า เมื่อเกิดเหตุแผ่นดินไหวขึ้น จะได้สามารถใช้อุปกรณ์ในการเอาตัวรอดเฉพาะหน้าได้ในเบื้องต้น ซึ่งอุปกรณ์ที่ควรจัดเตรียมไว้ มีดังนี้
               • อาหารแห้ง เป็นสิ่งจำเป็นที่ควรจัดเตรียมไว้ภายในบ้าน สำหรับรองรับเหตุฉุกเฉินในทุกกรณี รวมทั้งเหตุแผ่นดินไหว และควรจัดสำรองไว้สำหรับกระเป๋าฉุกเฉิน เพื่อสามารถพกพาในกรณีต้องอพยพเนื่องจากที่พักอาศัยเสียหายด้วย
               • อุปกรณ์ทำอาหารฉุกเฉิน ควรจัดสำรองไว้สำหรับกระเป๋าฉุกเฉินคู่กับอาหารแห้ง เพื่อสามารถพกพาในกรณีต้องอพยพเนื่องจากที่พักอาศัยเสียหาย
               • กระติกน้ำแบบพกพา ให้จัดเตรียมไว้ในบริเวณที่สามารถหยิบได้ง่าย เพื่อใช้บรรจุน้ำสำหรับการบริโภคในกรณีที่ต้องอพยพ
               • เสื้อผ้าสำรอง ควรจัดสำรองไว้ในกระเป๋าฉุกเฉิน เพื่อสามารถพกพาในกรณีต้องอพยพ
               • รองเท้าหุ้มส้น ใช้สวมใส่เมื่อเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว เพื่อป้องกันเศษแก้วหรือวัตถุแหลมคมอื่นๆ ที่อาจทำให้ได้รับบาดเจ็บ
               • ชุดปฐมพยาบาลและยา ให้จัดเตรียมไว้ในบริเวณที่สามารถหยิบได้ง่าย สำหรับรองรับเหตุฉุกเฉินในทุกกรณี และใช้พกพาในกรณีที่ต้องอพยพ
               • เอกสารสำคัญประจำตัว อาทิ บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน ให้จัดเตรียมไว้ในบริเวณที่สามารถหยิบได้ง่าย เพื่อสามารถพกพาในกรณีที่ต้องอพยพ เป็นหลักฐานยืนยันสถานะสมาชิกในครัวเรือนกับทางภาครัฐ
               • วิทยุแบบพกพา พร้อมแบตเตอรี่สำรอง ควรจัดสำรองไว้ในกระเป๋าฉุกเฉิน เพื่อสามารถพกพาในกรณีฉุกเฉิน และใช้รับฟังข่าวสารตลอดจนประกาศต่างๆ จากทางภาครัฐ
               • นกหวีด ให้จัดเตรียมไว้ในบริเวณที่สามารถหยิบได้ง่าย และจัดสำรองไว้ในกระเป๋าฉุกเฉิน ใช้สำหรับเป่าเรียกความช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน
               • ไฟฉาย พร้อมแบตเตอรี่สำรอง ให้จัดเตรียมไว้ในบริเวณที่สามารถหยิบได้ง่าย และจัดสำรองไว้ในกระเป๋าฉุกเฉิน เพื่อสามารถพกพาในกรณีที่ต้องอพยพ
               • เครื่องมือดับเพลิงประจำบ้าน ให้จัดเตรียมไว้ในบริเวณที่สามารถหยิบได้ง่าย เพื่อใช้ดับเพลิงไหม้ที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุแผ่นดินไหวในครัวเรือน

           การปฏิบัติตัวสำหรับเหตุแผ่นดินไหว
           ที่มา: ศูนย์ข้อมูลประชาสัมพันธ์ เตรียมตัว พร้อมใจสู้ภัยธรรมชาติ (http://region3.prd.go.th/natural-disaster/journal6.php)
           ก่อนเกิดแผ่นดินไหว
               • ควรมีไฟฉายพร้อมถ่านและกระเป๋ายาเตรียมไว้ในบ้านและให้ทุกคนทราบว่าอยู่ที่ไหน
               • ศึกษาการปฐมพยาบาลเบื้องต้น
               • เตรียมเครื่องมือดับเพลิงไว้ในบ้าน เช่น ถังดับเพลิง ถุงทราย
               • ควรทราบตำแหน่งของวาล์วน้ำ วาล์วปิดแก๊ส สะพานไฟฟ้า สำหรับตัดกระแสไฟฟ้า
               • อย่าวางของหนักบนชั้นหรือหิ้งสูง ๆ เพราะเมื่อเกิดแผ่นดินไหวอาจตกลงมาเป็นอันตราย
               • ผูกเครื่องใช้หนัก ๆ ให้แน่นกับพื้นผนังบ้าน
               • ควรมีการวางแผนเรื่องจุดนัดหมายเมื่อเกิดการพลัดหลงกัน
               • สร้างอาคารบ้านเรือนให้เป็นไปตามกำหนด สำหรับพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหว
           ระหว่างเกิดแผ่นดินไหว
               • อย่าตื่นตกใจ พยายามควบคุมสติให้สงบ ถ้าอยู่ในบ้านก็ให้อยู่ในบ้าน ถ้าอยู่นอกบ้านก็ให้อยู่นอกบ้าน เพราะส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บเพราะวิ่งเข้าออกบ้าน
               • ถ้าอยู่ในบ้านให้ยืนหรือหมอบอยู่ในส่วนที่มีโครงสร้างแข็งแรง และให้อยู่ห่างจากประตู ระเบียง หน้าต่าง
               • ถ้าอยู่ในอาคารสูงควรรีบออกจากอาคารโดยเร็วและหนีห่างจากสิ่งที่อาจจะล้มทับได้
               • ถ้าอยู่ในที่โล่งแจ้งให้อยู่ห่างจากเสาไฟฟ้าและสิ่งห้อยแขวนต่าง ๆ
               • ห้ามใช้เทียน ไม้ขีดไฟ ไฟแช้ก หรือสิ่งที่ทำให้เกิดประกายไฟ เพราะอาจมีแก๊สรั่วและทำให้ติดไฟได้
               • หากกำลังขับรถอยู่ให้หยุดรถและอยู่ในรถ จนการสั่นสะเทือนหยุด
               • ห้ามใช้ลิฟต์โดยเด็ดขาดในขณะที่เกิดแผ่นดินไหว
               • หากอยู่ชายหาดให้อยู่ห่างจากชายฝั่ง เพราะอาจเกิดคลื่นขนาดใหญ่ซัดเข้าหาฝั่ง
           หลังเกิดแผ่นดินไหว
               • หลังเกิดแผ่นดินไหวควรตรวจสอบดูว่าตนเองและคนข้างเคียงได้รับบาดเจ็บหรือไม่ หากบาดเจ็บให้ทำการปฐมพยาบาลในขั้นต้นจากนั้นให้นำตัวผู้บาดเจ็บส่งสถานพยาบาลหรือหน่วยแพทย์ที่ใกล้ที่สุด
               • หากอยู่ในอาคารที่ได้รับความเสียหายควรรีบออกจากอาคารทันที เพราะหากเกิดแผ่นดินไหวตามมาอาจทำให้อาคารพังลงมาทับ ทำให้ได้รับบาดเจ็บได้
               • ควรสวมใส่รองเท้าหุ้มส้น เพราะอาจมีเศษแก้วหรือวัตถุแหลมคมอื่น ๆ ทำให้ได้รับบาดเจ็บ
               • ตรวจสอบความเรียบร้อยของสายไฟ ท่อน้ำ ท่อแก๊ส ถ้าแก๊สรั่วให้ปิดวาล์วถังแก๊ส ยกสะพานไฟ และอย่าจุดไฟจนกว่าจะแน่ใจว่าไม่มีแก๊สรั่ว หากแก๊สรั่วภายในบ้านให้เปิดประตูหน้าต่างทุกบานเพื่อระบายอากาศ 
               • ให้ออกจากบริเวณที่มีสายไฟขาดหรือสายไฟพาดถึง
               • ให้เปิดฟังวิทยุเพื่อฟังคำแนะนำฉุกเฉิน แต่อย่าใช้โทรศัพท์นอกจากมีความจำเป็น
               • สำรวจความเสียหายของท่อน้ำ ท่อน้ำทิ้ง ท่อส้วม ก่อนใช้
               • ห้ามเข้าไปมุงหรือเข้าไปในเขตที่มีความเสี่ยงหรือมีอาคารพัง 
               • ห้ามเผยแพร่ข่าวลือ

แนวโน้มการเกิดแผ่นดินไหวในประเทศไทย

           แผ่นดินไหวในประเทศไทย
               ประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งของแผ่นเปลือกโลกยูเรเซียน (Eurasian Plate) ซึ่งล้อมรอบด้วยแผ่นเปลือกโลกอีก 2 แผ่น คือแผ่นเปลือกโลกอินเดีย-ออสเตรเลีย (Indian-Australian Plate) และแผ่นมหาสมุทรแปซิฟิก (Pacific Plate) ซึ่งตำแหน่งดังกล่าวอยู่ในเขตที่ถือว่าค่อนข้างปลอดแผ่นดินไหวพอสมควร แต่จากการบันทึกทางประวัติศาสตร์ ก็เคยปรากฏเหตุแผ่นดินไหวที่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ในประเทศไทยอยู่บ้างเล็กน้อย

Likelihood_of_Earthquakes_in_Thailand-001
แผ่นเปลือกโลกอินเดีย-ออสเตรเลีย มุดเข้าหาแผ่นเปลือกโลกยูเรเซียนด้วยอัตรา 70 มิลลิเมตรต่อปี


           ความเสี่ยงภัยจากแผ่นดินไหว

               กรมทรัพยากรธรณีได้สำรวจข้อมูลรอยเลื่อนมีพลังในประเทศไทย โดยแบ่งเป็นกลุ่มรอยเลื่อน 14 กลุ่ม ครอบคลุมพื้นที่ 22 จังหวัด (มีนาคม 2555)

Likelihood_of_Earthquakes_in_Thailand-002
Likelihood_of_Earthquakes_in_Thailand-003
ที่มา: สื่อเผยแพร่ความรู้ธรณีพิบัติภัย กรมทรัพยากรธรณี (http://www.dmr.go.th/ewt_news.php?nid=6814)


           ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับแผ่นดินไหวในประเทศไทย
               รองศาสตราจารย์ ดร.ปัญญา จารุศิริ ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
               ที่มา: หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการรายวัน ฉบับวันที่ 01 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
                         หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

               “รศ.ดร.ปัญญา จารุศิริ ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTVผู้จัดการออนไลน์ ย้ำว่าภูเก็ตไม่จมทะเลง่ายๆ เนื่องจากตั้งอยู่บนฐานหินแข็งอายุกว่า100 ล้านปี ซึ่งรองรับแผ่นดินไหวได้มาก ส่วนเหตุแผ่นดินไหวตามมาหรืออาฟเตอร์ช็อกที่ดูเหมือนเกิดขึ้นบ่อยนั้นเป็นปรากฏการณ์ปกติหลังแผ่นดินไหว เพียงแต่เกิดบริเวณเปลือกโลกที่ค่อนข้างตื้นจึงรับรู้ได้มาก
               โดยก่อนหน้านี้รอยเลื่อนในประเทศไทยที่ได้รับความสนใจที่สุดคือรอยเลื่อนแม่จันที่พาดผ่านเชียงรายและเชียงใหม่ เนื่องจากเป็นรอยเลื่อนที่มีพลังมากที่สุดและเกิดแผ่นดินไหวใหญ่จากรอยเลื่อนละแวกใกล้เคียงแล้วคือรอยเลื่อนในมณฑลยูนนานของจีนที่เกิดแผ่นดินไหวใหญ่เมื่อปี2552 และรอยเลื่อนน้ำมาในลาวและพม่าที่เกิดแผ่นดินไหวใหญ่เมื่อปี2554 ที่ผ่านมา แต่รอยเลื่อนแม่จันยังไม่ขยับและกำลังสะสมพลังงานอยู่ ซึ่งเมื่อ1,000 กว่าปีที่แล้วเคยแผลงฤทธิ์ และทำให้นครโยนกในอดีตต้องล่มสลาย ซึ่งมีการบันทึกไว้ในพงศาวดาร
               อย่างไรก็ดี เมื่อเกิดแผ่นดินไหวที่มีจุดศูนย์กลางที่ภูเก็ตทำให้รอยเลื่อน2 แห่งในภาคใต้คือ รอยเลื่อนระนองและรอยเลื่อนคลองมะรุ่ยได้รับความสนใจมากขึ้นและมีความเป็นไปได้ว่ามีแนวรอยเลื่อนใหม่ที่ยังไม่รู้จักซึ่งทางกรมทรัพยากรธรณีกำลังส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ แต่สิ่งที่ รศ.ดร.ปัญญาห่วงอยู่ตอนนี้คือการสะสมพลังงานของรอยเลื่อนทั้งสองแห่งซึ่งตอนนี้ยังไม่เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ขึ้นบนบก
               จากหลักฐานทางธรณีวิทยาระบุว่า เคยเกิดแผ่นดินไหวบนบก 6-7 ริกเตอร์จากรอยเลื่อนระนองและรอยเลื่อนคลองมะรุ่ยเมื่อ2,000 ปีที่แล้วและ 4,000 ปีที่แล้ว ซึ่งตอนนี้ "ใกล้คาบอุบัติซ้ำ" ของการเกิดแผ่นดินไหวใหญ่แล้ว แต่ยังไม่มีแผ่นดินไหวใหญ่เกิดขึ้น ซึ่ง รศ.ดร.ปัญญากล่าวว่าไม่ชอบนัก เพราะแสดงให้เห็นว่ารอยเลื่อนกำลังสะสมพลังงานอยู่และไม่รู้ว่าปลดปล่อยออกมาเมื่อไหร่ซึ่งไม่มีใครระบุได้”

               “รองศาสตราจารย์ ดร.ปัญญา จารุศิริ จากภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์จุฬาฯ เปิดเผยว่า หลังจากเกิดแผ่นดินไหวที่ จ.ภูเก็ต แม้จะเป็นแผ่นดินไหวขนาดเล็ก และไม่สามารถทำให้เกาะภูเก็ตจมได้ตามคำทำนายหรือข่าวลือต่าง ๆ แต่นักวิชาการไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยหันมาให้วามสนใจกับรอยเลื่อนในภาคใต้มากขึ้น
               รองศาสตราจารย์ ดร.ปัญญากล่าวต่อว่า จากการศึกษาพบว่ารอยเลื่อนที่ควรระวังหรือเฝ้าจับตา นอกจากรอยเลื่อนแม่จัน รอยเลื่อนขนาดใหญ่ที่พาดผ่านภาคเหนือของไทยบริเวณ จ.เชียงราย และอยู่ระหว่างการสะสมพลังแล้วนั้น ในภาคใต้ยังมีรอยเลื่อนที่น่าจับตาคือ "รอยเลื่อนระนอง" ซึ่งถือเป็นรอยเลื่อนที่มีพลังนอกชายฝั่ง สามารถทำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5-6 ริคเตอร์ได้ เพียงแต่ที่ผ่านมายังไม่เคยมีการตรวจพบว่าทำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่บนพื้นดิน จะมีแต่การเกิดนอกชายฝั่งหรือในทะเลและจัดเป็นแผ่นดินไหวในแบบที่ไม่ทำให้เกิดสึนามิได้
               รองศาสตราจารย์ ดร.ปัญญา ระบุอีกว่า ดังนั้นจุดที่น่าเป็นห่วงคือรอยเลื่อนระนอง ที่อยู่ในส่วนของพื้นดินที่คาดกันว่าอยู่ระหว่างการสะสมพลัง ทั้งนี้เคยมีหลักฐานทางธรณีวิทยาว่า รอยเลื่อนในภาคใต้อย่างเช่น รอยเลื่อนระนอง หรือรอยเลื่อนคลองมะลุ่ย เคยทำให้เกิดแผ่นดินไหวบนพื้นดินขนาด 6-7 ริคเตอร์เมื่อประมาณ 2,000 ปีที่แล้ว ดังนั้นการเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่บนพื้นดินจากรอยเลื่อนดังกล่าว จึงอาจเกิดขึ้นเมื่อใดก็ได้นับจากวันนี้เป็นต้นไป ซึ่งไม่มีใครสามารถคาดการณ์หรือบอกล่วงหน้าได้”

               ศาสตราจารย์ ดร.ปณิธาน ลักคุณะประสิทธิ์ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านวิศวกรรมแผ่นดินไหวและการสั่นสะเทือน จุฬาฯ
               ที่มา:  หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

               “ศาสตราจารย์ ดร.ปณิธาน ลักคุณะประสิทธิ์ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านวิศวกรรมแผ่นดินไหวและการสั่นสะเทือน จุฬาฯ เปิดเผยว่า กรณีแผ่นดินไหวในฝั่งอันดามันและที่เกาะภูเก็ต ได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก จนเกิดกระแสข่าวลือต่าง ๆ นักวิชาการจึงจำเป็นต้องออกมาให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับประชาชน ทั้งนี้จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวใหญ่เมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา หลายคนคาดว่าเป็นผลมาจากแผ่นดินไหวขนาดยักษ์ 9.1 ริคเตอร์เมื่อปี 2547 รวมถึงส่งผลต่อการเกิดแผ่นดินไหวที่บ่อยและรุนแรงมากขึ้นนั้น เนื่องจากรอยเลื่อนต่าง ๆ อยู่ห่างจากกันมากกว่า 100 กิโลเมตร ดังนั้นไม่น่าจะเกี่ยวข้องกันและมีโอกาสเกิดจากผลกระทบนี้น้อยมาก อย่างไรก็ดีจำเป็นต้องมีการศึกษาวิจัยต่อไป ส่วนการที่จะทำให้รอยเลื่อนในประเทศไทยมุดตัวนั้นเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากมีการเลื่อนตัวในแนวราบเป็นหลัก
               ศาสตราจารย์ ดร.ปณิธานระบุต่อว่า สำหรับกรณีแผ่นดินไหวที่เกาะภูเก็ต สามารถยืนยันได้ว่าไม่จมอย่างแน่นอน เพราะเกิดจากรอยเลื่อนขนาดเล็ก แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเกิดการขยับในรูปแบบใด และรอยเลื่อนเป็นไปในลักษณะไหน เพราะส่วนใหญ่รอยเลื่อนที่พาดผ่าน จ.ภูเก็ต มักจะเป็นรอยเลื่อนที่ตายแล้วหรือไหวตัวครั้งสุดท้ายเมื่อ 10,000 ปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันการเกิดแผ่นดินไหวส่วนใหญ่จะเกิดในหินแข็งที่มีอายุมากกว่า 100 ล้านปี หากจะส่งผลกระทบรุนแรงถึงขั้นจม ต้องมีแผ่นดินไหวขนาดใหญ่มากกว่า 9 ริคเตอร์ซึ่งเป็นไปได้ยาก และเกาะภูเก็ตไม่ได้อยู่ในแนวมุดตัวของโลกด้วย ส่วนการจมหรือทรุดตัวของภูเก็ตในปัจจุบัน ที่พบว่ามีประมาณ 1 ซม.ต่อปีนั้นถือเป็นเรื่องปกติทางธรณีวิทยา ที่พื้นดินจะมีการแกว่งตัว ดีดขึ้นลงตามคาบเวลาต่าง ๆ
               ศาสตราจารย์ ดร.ปณิธานกล่าวอีกว่า การเตรียมพร้อมรับมือกับภัยพิบัติเป็นเรื่องจำเป็น ซึ่งแผ่นดินไหวที่จะมีผลถึงขั้นทำให้อาคารถล่ม จะต้องมีความรุนแรงขนาด 5.5 ริคเตอร์ขึ้นไปและมีปัจจัยต่าง ๆ สนับสนุน ที่ผ่านมาในประเทศไทยพบเหตุการณ์ดังกล่าวได้น้อยมาก หากขนาดแผ่นดินไหวน้อยกว่า 5 ริคเตอร์ เช่นที่ภูเก็ต อาคารจะสามารถต้านทานแรงสั่นสะเทือนได้โดยไม่พังทลาย หรือเป็นอันตรายต่อโครงสร้างหลัก ยกเว้นอาคารที่ไม่ได้มาตรฐาน นอกจากนี้กรมทรัพยากรธรณี ควรเร่งการจัดทำแผนที่รอยเลื่อนที่มีพลังของไทย โดยแยกเป็นรายจังหวัด เพื่อให้ประชาชนสามารถประเมินความเสี่ยง และเตรียมความพร้อมในการรับมือกับภัยแผ่นดินไหวที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา”

               รศ.ดร.อมร พิมานมาศ ประธานคณะอนุกรรมการสาขาวิศวกรรม โครงสร้างและสะพาน สมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.)
               ที่มา: จดหมายข่าว IPRB ฉบับที่ 24 เดือนกรกฎาคม-กันยายน 2554

               1. ทุกวันนี้แผ่นดินไหวทั่วโลกเกิดถี่ขี้นจริงหรือไม่?
                    หากดูจากสถิติการเกิดแผ่นดินไหวทั่วโลกย้อนหลังไป 10 ปี จะพบว่ามีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นทั่วโลกนับพันครั้งต่อวัน แผ่นดินไหวบางครั้งมีขนาดเล็กไม่เกิน 2-3 ริกเตอร์ คนไม่รู้สึกแต่สามารถตรวจวัดโดยใช้เครื่องมือ แผ่นดินไหวที่มีขนาดใหญ่พอที่จะสร้างความเสียหายให้แก่อาคารบ้านเรือนมักมีขนาดเกิน 5 ริกเตอร์ขึ้นไปและเกิดในที่ที่มีผู้คนอาศัยอยู่มาก ซึ่งตามสถิติแล้ว แผ่นดินไหวขนาด 5.0-5.9 ริกเตอร์จะเกิดขึ้นประมาณ 1,500 ครั้งต่อปี ขนาด 6.0-6.9 ริกเตอร์เกิดขึ้นประมาณ 150 ครั้งต่อปี ขนาด 7.0-7.9 ริกเตอร์เกิดขึ้นประมาณ 15 ครั้งต่อปี และขนาด 8.0 ริกเตอร์ขึ้นไปเกิดขึ้นประมาณ 1 ครั้งต่อปี ซึ่งถ้าดูตามสถิตินี้แล้วก็ยังไม่พบสัญญาณบ่งชี้ว่าการเกิดแผ่นดินไหวจะมีความถี่มากขึ้นผิดปกติแต่อย่างใด
               2. สถิติการเกิดแผ่นดินไหวในประเทศไทยที่ผ่านมาเป็นอย่างไร?
                    สำหรับประเทศไทยนั้นมีรอยเลื่อนที่มีศักยภาพที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหวอยู่หลายที่ โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคตะวันตกของประเทศ อย่างไรก็ตาม ศักยภาพที่จะทำให้เกิดแผ่นดินไหวของรอยเลื่อนในประเทศไทยนั้นยังไม่รุนแรงเท่ากับบริเวณพื้นที่ที่เป็นรอยต่อของเปลือกโลกหรือวงแหวนแห่งไฟ (Ring of Fire) ซึ่งจากสถิติการเกิดแผ่นดินไหวในประเทศไทยที่ผ่านมาเกือบ 40 ปีเรามีแผ่นดินไหวขนาดกลาง (5.0-5.9 ริกเตอร์) เกิดขึ้น 8 ครั้ง หรือเฉลี่ย 1 ครั้งในรอบ 5 ปี แบ่งเป็นภาคเหนือ 5 ครั้ง ภาคตะวันตก 3 ครั้ง โดยแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในบ้านเราส่วนใหญ่มีขนาดไม่เกิน 6.0 ริกเตอร์ แผ่นดินไหวที่มีขนาดมากกว่า 6.0 ริกเตอร์จะเกิดนอกประเทศทั้งนั้น แต่แม้แผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นในระยะไกล เช่น เกิดขึ้นในประเทศอินโดนีเซีย พม่า ทว่าในพื้นที่ที่เป็นชั้นดินอ่อนที่อยู่ห่างไกลจากจุดเกิดแผ่นดินไหว เช่น กรุงเทพฯ ก็สามารถรับรู้แรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นได้เช่นกัน
               3. มีปัจจัยเสี่ยงอะไรบ้างที่จะทำให้เกิดอันตรายจากแผ่นดินไหว?
               ปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอันตรายหรือความเสียหายจากแผ่นดินไหว ได้แก่
                    1.พื้นที่นั้นอยู่ใกล้ๆ รอยต่อของเปลือกโลกหรือวงแหวนแห่งไฟ (Ring of Fire) หรือรอยเลื่อนที่มีศักยภาพที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหวหรือไม่
                    2.พื้นที่นั้นตั้งอยู่บนชั้นดินอ่อนหรือไม่
                    3.โครงสร้างของอาคารบ้านเรือนในพื้นที่นั้นออกแบบให้รองรับแผ่นดินไหวหรือไม่ ซึ่งแผ่นดินไหวขนาดกลางหากเกิดขึ้นก็ทำอันตรายได้ถ้าเกิดขึ้นในที่ชุมชนที่มีอาคารบ้านเรือนตั้งอยู่บนชั้นดินอ่อน และอาคารบ้านเรือนในพื้นที่นั้นไม่ได้ออกแบบเพื่อป้องกันภัยแผ่นดินไหว
                    4. พื้นที่และบริเวณใดบ้างในประเทศไทยที่ถือว่าเป็นที่ที่ต้องเฝ้าระวังภัยแผ่นดินไหว?
                         สำหรับพื้นที่และบริเวณเฝ้าระวังภัยแผ่นดินไหวในประเทศไทยเรามีดังนี้ คือ
                         1.พื้นที่หรือบริเวณที่อาจได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว ได้แก่ กระบี่ ชุมพร พังงา ภูเก็ต ระนอง สงขลา และสุราษฎร์ธานี
                         2.พื้นที่หรือบริเวณที่เป็นดินอ่อนซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวระยะไกล ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร
                         3.พื้นที่หรือบริเวณที่อยู่ใกล้รอยเลื่อนที่อาจได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว ได้แก่ กาญจนบุรี เชียงราย เชียงใหม่ ตาก น่าน พะเยา แพร่ ลำปาง ลำพูน และแม่ฮ่องสอน
                    5. อาคารใดบ้างในประเทศไทยที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายเมื่อเกิดแผ่นดินไหว?
                         อาคารที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายได้เมื่อเกิดแผ่นดินไหว ได้แก่
                         1. ตึกแถวที่มีเสาขนาดเล็กเกินไปและมีคานขนาดใหญ่ โดยเฉพาะอาคารสูงไม่เกิน 4-5 ชั้น
                         2. อาคารพื้นท้องเรียบไร้คานรองรับ เช่น อาคารจอดรถ อาคารสำนักงานบางแห่ง
                         3. อาคารสูงที่มีดีไซน์แปลกๆ รูปทรงซับซ้อน มีส่วนเว้า ส่วนโค้ง ส่วนยื่น หรือลูกเล่นมากๆ
                         4. อาคารหรือบ้านเดี่ยวที่ก่อสร้างด้วยระบบชิ้นส่วนสำเร็จรูป เช่น ใช้คาน หรือเสาสำเร็จรูปมาต่อกัน
                         5. อาคารที่ทำการต่อเติมและทำทางเดินเชื่อมต่อกัน
                         6. อาคารที่ก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน เช่น อาคารทำจากอิฐไม่เสริมเหล็ก
                         7. อาคารที่อยู่ในภาคเหนือ ภาคตะวันตกของประเทศไทย มีความเสี่ยงทุกความสูง ส่วนอาคารในกรุงเทพฯ ที่มีความสูงตั้งแต่ 5-6 ชั้น และอาคารเตี้ยที่ก่อสร้างไม่ดี ไม่มีมาตรฐาน ถือว่ามีความเสี่ยง
                         อาคารที่สร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 เป็นต้นมาหลังจากที่มีกฎกระทรวงปี พ.ศ. 2550 (กำหนดการรับน้ำหนัก ความต้านทาน ความคงทนของอาคาร และพื้นดินที่รองรับอาคารในการต้านทานแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว พ.ศ. 2550) ออกมา หากออกแบบและก่อสร้างอาคารตามกฎหมายนี้ก็จะทำให้อาคารมีความปลอดภัย แต่สำหรับอาคารเก่าจำนวนมากที่ก่อสร้างก่อนปี พ.ศ. 2550 ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้ออกแบบให้ต้านทานแผ่นดินไหว อาคารเหล่านี้ก็จะมีความเสี่ยงและควรต้องมีการวิเคราะห์และหาวิธีเสริมความมั่นคงให้อาคารสามารถรองรับแผ่นดินไหวได้ในระดับเดียวกับอาคารที่ก่อสร้างขึ้นมาใหม่ตามกฎกระทรวง”